Box Compression Test (BCT) คืออะไร?

Box Compression Test BCT คืออะไร

ในการขนส่งอาหาร กล่องกระดาษลูกฟูก หรือกล่องกระดาษใส่อาหาร เปรียบเสมือนเกราะปราการด่านแรกที่ปกป้องสินค้าภายในให้ปลอดภัยจนถึงมือลูกค้า แต่เคยสงสัยไหมว่า เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่ากล่องที่เราใช้นั้นแข็งแรงพอที่จะวางซ้อนกันในคลังสินค้าหรือระหว่างการขนส่งได้โดยไม่ยุบตัวลงมาสร้างความเสียหาย?

กล่องสินค้าที่ยุบตัวหรือเสียหายจากการซ้อนทับกัน

คำตอบอยู่ในมาตรฐานการทดสอบที่เรียกว่า Box Compression Test (BCT) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์มืออาชีพอย่าง Thaifoodpackaging ใช้เพื่อรับประกันคุณภาพ

บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่า BCT คืออะไร ทำไมจึงสำคัญ และมีปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อความแข็งแกร่งของกล่อง

แน่นอนค่ะ จัดให้เลยค่ะ นี่คือบทความอธิบายความหมายและความสำคัญของ “Box Compression Test (BCT)” ในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและครอบคลุม

Box Compression Test (BCT) คืออะไร?

BCT คือ การทดสอบเพื่อหาค่าความต้านทานแรงกดทับสูงสุด (Maximum Compressive Strength) ของกล่องกระดาษลูกฟูก พูดง่ายๆ คือ เป็นการวัดว่ากล่องหนึ่งใบสามารถรับน้ำหนักที่กดลงมาตรงๆ จากด้านบนได้มากที่สุดเท่าไหร่ ก่อนที่กล่องนั้นจะเริ่มยุบตัวหรือเสียรูปทรงอย่างถาวร

ค่าที่ได้จากการทดสอบนี้เป็นข้อมูลสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินความสามารถของกล่องในการวางซ้อนกัน (Stacking Strength) ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเสมอในการจัดเก็บและขนส่ง

ทำไม BCT ถึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง?

การทดสอบ BCT ไม่ใช่แค่กระบวนการในห้องปฏิบัติการ แต่เป็นหัวใจสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพและต้นทุนของธุรกิจ

  1. ป้องกันความเสียหายของสินค้า : นี่คือประโยชน์ที่ชัดเจนที่สุด กล่องที่มีค่า BCT ไม่เพียงพอจะยุบตัวลงเมื่อถูกวางซ้อนกัน ทำให้สินค้าหรืออาหารที่อยู่ภายใน โดยเฉพาะกล่องที่อยู่ชั้นล่างสุด ได้รับความเสียหาย ซึ่งนำไปสู่ต้นทุนการสูญเสียและการเคลมสินค้า
  2. เพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งและจัดเก็บ : เมื่อทราบค่า BCT ที่แน่นอน เราจะสามารถคำนวณความสูงของการซ้อนกล่องบนพาเลทหรือในคลังสินค้าได้อย่างแม่นยำ ทำให้ใช้พื้นที่แนวตั้งได้อย่างคุ้มค่าและปลอดภัยสูงสุด
  3. ลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น (Optimization) : การเลือกกล่องที่มีค่า BCT สูงเกินความจำเป็น (Over-spec) หมายถึงต้นทุนค่าบรรจุภัณฑ์ที่สูงขึ้นโดยใช่เหตุ ในทางกลับกัน การเลือกกล่องที่อ่อนแอเกินไป (Under-spec) ก็เสี่ยงต่อความเสียหาย การทดสอบ BCT ช่วยให้เราสามารถออกแบบและเลือกกล่องที่มีความแข็งแรง “พอดี” กับความต้องการใช้งานจริง
  4. สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ : การจัดส่งสินค้าถึงมือลูกค้าในสภาพที่สมบูรณ์ กล่องไม่บุบสลาย คือส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่ดีและสะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพของแบรนด์
โรงงานผลิตและขายส่งแก้วกระดาษ-ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

กระบวนการทดสอบ BCT ทำอย่างไร?

โรงงานผลิตขายส่งถ้วยไอศครีมกระดาษ-มาตรฐาน

การทดสอบนี้ทำโดยใช้เครื่องมือเฉพาะที่เรียกว่า Box Compression Tester ซึ่งมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

  1. นำกล่องตัวอย่างที่ต้องการทดสอบ (เป็นกล่องเปล่าที่ขึ้นรูปสมบูรณ์) ไปวางไว้ตรงกลางระหว่างแผ่นกดของเครื่อง
  2. เครื่องจะค่อยๆ เคลื่อนแผ่นกดด้านบนลงมากดทับกล่องด้วยความเร็วที่สม่ำเสมอและเป็นไปตามมาตรฐานสากล
  3. เซ็นเซอร์ของเครื่องจะบันทึกแรงกดที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
  4. เมื่อแรงกดถึงจุดสูงสุดที่กล่องสามารถทนได้ (ก่อนที่กล่องจะเริ่มยุบตัว) เครื่องจะบันทึกค่านั้นไว้เป็น ค่า BCT ซึ่งโดยทั่วไปมีหน่วยเป็น กิโลกรัมแรง (kgf) หรือ นิวตัน (N)

ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อค่า BCT

ความแข็งแรงของกล่องขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบร่วมกัน ได้แก่

ภาพเปรียบเทียบกล่องทรงลูกบาศก์กับกล่องทรงสูง
  • คุณภาพของกระดาษลูกฟูก (ECT – Edge Crush Test) : ค่า ECT คือค่าความแข็งแรงของแผ่นกระดาษเมื่อโดนกดจากขอบ ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลต่อค่า BCT มากที่สุด
  • ประเภทของลอน (Flute Type) : ลอนลูกฟูกแต่ละชนิด (เช่น ลอน C, B, BC) ให้ความสามารถในการรับแรงกดที่แตกต่างกัน
  • ขนาดและสัดส่วนของกล่อง : กล่องที่มีเส้นรอบรูป (Perimeter) ยาวกว่า มักจะรับแรงได้ดีกว่า และกล่องทรงลูกบาศก์จะแข็งแรงกว่ากล่องทรงสูงแคบ
  • ความชื้น : ความชื้นในบรรยากาศคือศัตรูตัวร้ายของกล่องกระดาษ เพราะมันสามารถลดความแข็งแรงของกล่องลงได้ถึง 50% หรือมากกว่านั้น
  • การออกแบบอื่นๆ : การมีรูเจาะสำหรับมือจับ ช่องระบายอากาศ หรือการพิมพ์ลายทึบบนพื้นที่ขนาดใหญ่ ล้วนส่งผลให้ค่า BCT ลดลงได้

ตัวอย่างค่ามาตรฐาน BCT (โดยประมาณ)

ค่า BCT จะแตกต่างกันไปมาก ขึ้นอยู่กับขนาดกล่อง คุณภาพกระดาษ และน้ำหนักของสินค้าภายใน แต่เพื่อให้เห็นภาพ นี่คือค่าโดยประมาณสำหรับกล่องประเภทต่างๆ

ประเภทการใช้งานตัวอย่างสินค้าค่า BCT โดยประมาณ (kgf)
กล่องขนาดเล็กสินค้าอุปโภคบริโภค, เครื่องสำอาง80 – 200 kgf
กล่องขนาดกลางชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, อาหารกระป๋อง200 – 400 kgf
กล่องขนาดใหญ่เครื่องใช้ไฟฟ้า, สินค้าส่งออกจำนวนมาก400 – 700+ kgf

หมายเหตุ : ค่าเหล่านี้เป็นเพียงแนวทางเบื้องต้น ค่าที่แม่นยำจะต้องได้มาจากการทดสอบกล่องจริงเท่านั้น

อะไรบ้างที่มีผลต่อค่าความเรียงซ้อน?

ความแข็งแรงของกล่องไม่ได้มาจากปัจจัยเดียว แต่เป็นผลรวมของหลายองค์ประกอบ

อะไรบ้างที่มีผลต่อค่าความเรียงซ้อน
  1. คุณภาพกระดาษ (ECT) : ค่า Edge Crush Test (ECT) หรือค่าความแข็งแรงของแผ่นกระดาษลูกฟูกในการรับแรงกดแนวตั้ง คือปัจจัยที่สำคัญที่สุด กระดาษที่มีค่า ECT สูง จะทำให้กล่องมีค่า BCT สูงตามไปด้วย
  2. ประเภทลอนลูกฟูก : ลอนแต่ละชนิด (เช่น ลอน C, B, E) ให้ความสามารถในการรับแรงกดที่แตกต่างกัน ลอน C เหมาะกับการขนส่งทั่วไป ในขณะที่ลอน BC (2 ชั้น) ให้ความแข็งแรงที่สูงมาก
  3. ขนาดและรูปทรงของกล่อง : กล่องที่มีรูปทรงใกล้เคียงลูกบาศก์จะรับแรงได้ดีกว่ากล่องที่สูงและแคบ
  4. ความชื้นและสภาพแวดล้อม: ความชื้นคือศัตรูตัวฉกาจของกล่องกระดาษ หากกล่องถูกเก็บในที่ชื้น ความแข็งแรงอาจลดลงได้ถึง 50%
  5. การพิมพ์และรอยพับ : การพิมพ์ลายทึบหรือการมีรอยพับมากเกินไปบนกล่อง สามารถลดความแข็งแรงของโครงสร้างได้
  6. วิธีการจัดเรียงบนพาเลท : การวางกล่องแบบตรงแนว (Column Stack) จะช่วยกระจายน้ำหนักได้ดีกว่าการวางสลับแบบก่ออิฐ (Interlocking Stack)

วิธีคำนวณคร่าว ๆ

ในทางทฤษฎี สามารถประมาณค่า BCT ได้จาก สูตรของ McKee ซึ่งเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรม

BCT ≈ 5.87 * ECT * √(T * Z)

  • ECT : ค่าความแข็งแรงของแผ่นกระดาษ (lbs/in)
  • T : ความหนาของแผ่นกระดาษลูกฟูก (นิ้ว)
  • Z : ความยาวเส้นรอบรูปของกล่อง (นิ้ว)

อย่างไรก็ตาม สูตรนี้เป็นเพียงการประมาณค่าในห้องทดลอง การทดสอบ BCT กับกล่องจริงจึงเป็นวิธีที่แน่นอนที่สุดในการหาค่าความแข็งแรงที่แท้จริง

ความพร้อมของ Thaifoodpackaging

โรงงานผลิตขายส่งถ้วยไอศครีมกระดาษ-1.jpg

ในฐานะโรงงานผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มชั้นนำ Thaifoodpackaging ให้ความสำคัญกับมาตรฐานการผลิตและความปลอดภัยสูงสุด

  • มาตรฐานระดับสากล : โรงงานได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015, FSSC 22000, และ CODEX HACCP & GHPs ซึ่งเป็นเครื่องการันตีว่าทุกกระบวนการผลิตมีการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด
  • ห้องปฏิบัติการและเครื่องมือทดสอบ : Thaifoodpackaging มีความพร้อมด้านเครื่องมือทดสอบคุณภาพบรรจุภัณฑ์ รวมถึงเครื่องทดสอบ BCT และ ECT เพื่อให้มั่นใจว่ากล่องทุกใบที่ผลิตออกไปมีคุณสมบัติตรงตามความต้องการของลูกค้าและแข็งแรงเพียงพอสำหรับการใช้งานจริง
  • ทีมผู้เชี่ยวชาญ : มีทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษาในการเลือกใช้วัสดุและออกแบบโครงสร้างกล่องให้มีค่า BCT ที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ของลูกค้า เพื่อสร้างบรรจุภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุด

สรุป

Box Compression Test (BCT) ไม่ใช่เป็นเพียงตัวเลขทางเทคนิค แต่เป็นมาตรวัดความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และประสิทธิภาพของบรรจุภัณฑ์ การทำความเข้าใจและให้ความสำคัญกับค่า BCT คือการลงทุนที่ช่วยปกป้องสินค้า ลดต้นทุนความเสียหาย และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์

การเลือกผู้ผลิตที่มีความพร้อมทั้งด้านองค์ความรู้และเทคโนโลยีการทดสอบที่ได้มาตรฐานอย่าง Thaifoodpackaging จึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญสู่ความสำเร็จในการส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าของคุณ

บรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม Food & Beverage Packaging

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และโฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ Cookies ที่เราใช้งานได้แก่ Google Analytics และ Facebook Pixel

บันทึกการตั้งค่า